วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

25 วิธีมีความสุข ไม่ใช่เรื่องยากหากต้องการใช้ชีวิตให้เต็มที่

ถ้าอยากมีความสุข คุณต้องรู้จักซึมซับความรู้สึกอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นความโศกเศร้าหรือความโกรธที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมทั้งยอมรับในสิ่งที่คุณมีและสถานภาพที่คุณเป็น เพื่อจะได้มีความสุขกับชีวิตมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

หากคุณหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมจึงไม่มีความสุขทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ลำบากยากแค้นอะไร ลองอ่านข้อคิดต่อไปนี้เพื่อจะได้ระลึกว่า "เราเองก็มีชีวิตที่ดีทีเดียว"
1. คิดใหม่ ใช้ชีวิตราวกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย คนที่ป่วยหนักหรือเผชิญกับอุบัติเหตุใกล้ตาย เห็นโศกนาฏกรรมหรือสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รักมักมีมุมมองชีวิตที่ต่างออกไป หลายคนบอกว่าจะไม่ปล่อยเวลาให้สายเกินไปอีกแล้ว จะท่องเที่ยวไปในโลกกว้างหรือติดต่อพบปะเพื่อนฝูง เราทุกคนก็ควรตระหนักว่าอาจไม่มี "พรุ่งนี้" ก็ได้
2. จดบันทึก เขียนเล่าถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณทุกวัน การจดบันทึกยังช่วยแก้ปัญหาและขจัดเรื่องไม่ดีที่รกสมองออกไปได้ด้วย ลองเริ่มเขียนตั้งแต่วันนี้ รับรองได้ผลแน่
3. มองในแง่มุมอื่นบ้าง ลองคิดว่าคุณอยากให้คนอื่นจดจำคุณในด้านใด หรือหากวันหนึ่งต้องเล่าเรื่องชีวิตตนเองให้หลานๆ ฟัง คุณจะเล่าอะไร
4. อย่าให้เรื่องเล็กน้อยกวนใจ ไม่คุ้มหรอกที่จะหัวเสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หากคนขับรถคันข้างๆ ไม่ยอมให้คุณเบียดเข้าเลนก็ยิ้มและโบกมือให้เขาไปเลย
5. ทำงานยากให้เสร็จ ลงมือได้แล้วอย่าผัดวันประกันพรุ่ง โอ้เอ้ไปก็มีแต่ทำให้หนักใจเหนื่อยกาย ไหนๆ งานนี้ก็ต้องทำโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง ก็น่าจะทำให้เสร็จแทนที่จะมัวกังวลและคิดจนรกสมอง
6. เลิกทำตัวจำเจ ชีวิตคงน่าเบื่อหากทำอะไรซ้ำซากทุกวันทุกสัปดาห์ เราน่าจะมีเรื่องแปลกใหม่มาทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยบ้าง ถ้าเอาแต่นอนตื่นสายทุกวันอาทิตย์ก็น่าจะลุกขึ้นมาแต่เช้าไปกินอาหารอร่อยๆ นอกบ้าน หรือไปตลาดแล้วจ่ายกับข้าวมาทำอาหารมื้ออร่อยกินกันที่บ้าน
7. อย่าเปรียบตัวเองกับคนอื่น ใครจะมีสระว่ายน้ำ เครื่องเสียงแพงๆ รุ่นล่าสุด หรือรถหรูใหม่เอี่ยมไม่ต้องสนใจ หากดูให้ดีๆ คุณอาจพบว่าคนพวกนี้ต้องทำงานสัปดาห์ละเจ็ดวัน ไม่มีเวลาเจอหน้าคนในบ้านหรือเพื่อนฝูง หรืออาจต้องผ่อนหนี้สินไปอีกหลายสิบปี แล้วชีวิตอย่างนี้ดีจริงหรือ
8. กำจัดข้าวของรกในบ้าน เสื้อผ้าที่ไม่เคยใส่มาเป็นปี เครื่องครัวที่ตั้งอยู่ตรงนั้นจนน้ำมันจับเป็นคราบหนา ไหนจะของเล่น หนังสือเก่า และเครื่องเรือน ยกไปบริจาคเถิด นอกจากจะได้บุญแล้ว ชั้นวางของและห้องต่างๆ ในบ้านจะโล่งและเป็นระเบียบมากขึ้น
9. รู้จักเอ่ยคำว่า "ไม่" ไม่ต้องลงมือทำเองทุกเรื่องเพราะชีวิตคุณก็วุ่นวายพออยู่แล้ว ไหนจะต้องทำเรื่องโน้น สะสางเรื่องนี้ ปล่อยให้สมองมีที่ว่างเพื่อคิดหรือทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง
10. รดน้ำต้นรัก รักคู่ครองของคุณอย่างที่เขาเป็น ที่คุณคิดว่าเขาเปลี่ยนไปนั้นเป็นความจริงหรือ (คิดให้ดีก่อนตอบ) ของทุกอย่างเมื่อใช้งานไปได้ระยะหนึ่งก็ต้องบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมเป็น ธรรมดา ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาก็เช่นกัน ต้องมีการดูแลใส่ใจกันบ้าง
11. อย่าให้ความคุ้นเคยกลายเป็นไม่ไว้หน้า หากคุณให้เกียรติเพื่อนหรือผู้อื่น คู่ครองหรือคนในครอบครัวคุณก็ควรได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน และคุณเองก็ควรได้เกียรติจากคนในครอบครัวเช่นกัน
12. มอบความรักให้ครอบครัวและเพื่อนๆ อย่าเขินที่จะบอกคนเหล่านี้ว่าคุณรักพวกเขาตรงไหน เมื่อเขาทำอะไรดีๆ ให้ก็กล่าวคำชื่นชมบ้าง คำชมเล็กๆ น้อยๆ ไม่เคยทำร้ายใคร
13. อย่ารับปรับทุกข์ทุกเรื่อง หากปัญหาของเพื่อนเริ่มมีผลกระทบต่อตัวคุณ ก็ไม่ต้องฝืนทำตัวเป็นเสาหลักให้เขาพิงอยู่เรื่อยไป ให้เพื่อนหัดแก้ปัญหาและก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยตัวเอง
14. ติดต่อเพื่อนเก่า คุณอาจขาดการติดต่อกับเพื่อนไปนาน แต่ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะโทรศัพท์ ส่งอีเมล์ หรือเขียนจดหมายถึงเขา และนานแค่ไหนแล้วที่คุณไม่ได้คุยกับป้า ท่านอยากได้ยินเสียงคุณจะแย่แล้ว
15. บำรุงอารมณ์ด้วยสีเขียว ดอกไม้สดจากสวน หรือตื่นแต่เช้าไปตลาดซื้อดอกไม้ ผักผลไม้ราคาไม่แพงมาแต่งบ้านให้สดใส คุณเคยมีสวนกระถางในบ้านไม่ใช่หรือ นำกลับมาอีกครั้ง แล้วบ้านคุณจะชุ่มชื่นมีชีวิตชีวาแน่นอน
16. ไปทะเลกันดีกว่า ทิวทัศน์กว้างไกล สายลม เกลียวคลื่น สองเท้าเปลือยเปล่าย่ำบนผืนทราย และแสงแดดระยับ ไม่มีอะไรทำให้จิตใจเริงรื่นชื่นบานได้ดีกว่านี้อีกแล้ว  
17. สร้างสรรค์ผลงาน จะเป็นภาพเขียน งานปั้น เย็บปักถักร้อย อบขนม จัดสวน หรืออะไรก็ได้
18. สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกไปข้างนอกหรือเปิดหน้าต่างกว้างๆ สูดหายใจให้เต็มปอด คุณจะรู้สึกว่าอากาศเสียถูกขับออกจากตัว
19. ออกไปเดินเล่น การออกกำลังเบาๆ จะช่วยเติมชีวิตชีวาให้คุณทั้งร่างกายและจิตใจตั้งแต่เดินเล่นครั้งแรกเลยที เดียว การออกกำลังสม่ำเสมอจะทำให้คุณกระปรี้กระเปร่าและรู้สึกดีขึ้นทุกวัน
20. ดูหนังตลกและหัวเราะให้สบายใจ ร้านให้เช่าวิดีโอมีหนังเบาสมองให้เลือกมากมาย จะเป็นหนังไทยหรือฝรั่งไม่สำคัญ ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาบ้าง
21. ย้ายเครื่องเรือนและของแต่งบ้าน หรืออาจทาสีห้องและผนังใหม่ด้วย รับรองว่าบรรยากาศที่ได้คุ้มค่าไม่แพ้วันหยุดเลยทีเดียว
22. รอคอยสิ่งดีๆ เช่นวันหยุดพักร้อน ออกไปเที่ยวกับเพื่อนฝูง หรือแม้แต่ไปนวดแผนโบราณ
23. ชวนเพื่อนมากินมื้อค่ำ จัดห้องและโต๊ะอาหารที่บ้านให้แปลกไปจากเดิม เสิร์ฟเครื่องดื่มค็อกเทลหรือแชมเปญ เปิดเพลงเสริมบรรยากาศ สนุกกับการเตรียมอาหาร ทุกคนจะปลาบปลื้มหากเห็นว่าคุณทุ่มสุดฝีมือ แล้วค่ำคืนนั้นก็จะครึกครื้น
24. ยิ้มไว้ ยิ้มเป็นโรคติดต่อ ไม่เชื่อก็ลองยิ้มดูสิ
25. ทำให้คนอื่นมีความสุขบ้าง ทำเพื่อตัวเองมามากแล้วก็น่าจะทำเพื่อคนอื่นบ้าง เริ่มจากอดกลั้นไม่บีบแตรไล่รถที่วิ่งเหมือนเต่าคลาน หรืออาสาช่วยงานกุศล
เพียงเท่านี้ การใช้ชีวิตให้สุดคุ้มก็ไม่ยากอย่างที่คิด

วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

10 อันดับหมากฝรั่งของญี่ปุ่นสุดแปลก


อันดับ 10 No Time Gum: Eat Your Toothbrush!
ไม่มีเวลาแปรงฟันเหรอ? ไม่มีปัญหาสำหรับคุณอีกต่อไป เพราะ โนไทม์กัม นั้นสามารถทำให้ฟันของคุณสะอาด สุดยอดเลยใช่มะ? ทั้งประหยัดเวลา ต่อไปเราคนได้ยินเสียงแม่ ตะโกนบอกว่า “อย่าลืมเคี้ยวหมากฝรั่งก่อนนอนนะลูก”
 
อันดับ 9 "Man Smell" Gum - Not Just for Athletic Supporters 
เจ้า Otoko Kaoru นั้นแปลว่า กลิ่นของชายหนุ่ม
เจ้าหมากฝรั่งอันนี้มีน้ำมันดอกกุหลาบสามารถทำให้คนเคี้ยวมีกลิ่นหอมออกตามผิวหนัง ซึ่งเป็นกลิ่นเมนทัลแมนๆ

อันดับ 8 Chewing Gum with After-Wrappers - A Neat Idea
เจ้านี้รู้สึกว่าที่บ้านเราก็มี Xylish แถมที่ห่อหมากฝรั่งทิ้งมาให้ด้วย ช่างคิดจริงๆ



อันดับ 7 Digi-Gum: 4 out of 5 Nutty Professors Agree!
Xylish อีกอันนึง เป็นรสส้ม เจ้าหมากฝรั่งตัวมันเองก็ไม่ได้แปลกอะไร แต่ที่มันดึงความสนใจก็เพราะคุณเจ้าหน้าแว่นที่เหมือน Jerry Lewis ในเวอร์ชั่น Nutty Professor นี่สิที่ทำให้อดขำไม่ได้ แถมเจ้านี้มันเป็นแบบไม่มีน้ำตาลด้วย


อันดับ 6 Sparkle Ninja Chewing Gum, for Flamboyant Ninjas  
เป็นรสสตรอเบอร์รี่ ชื่อว่า Sparkling Ninja ซึ่งเจ้านี้ไม่ได้วางขายในประเทศญี่ปุ่นเพียงแต่ขอยืมนินจาจากญี่ปุ่นมาเท่า นั้น แต่ที่น่าแปลกก็คือ ใครจะคิดว่านินจาจะใส่ชุดสีชมพู

อันดับ 5 Black Black Gum - Bigger and Blacker than Before 
เจ้า Black Black Gum นี้ออกมาโดยโฆษณาว่ามีรสชาติ "Hi Technical Taste" มันยังมีคาเฟอีนที่หนักกว่ายี่ห้ออื่นๆ 
 

อันดับ 4 Xylish Platinum Mint Chardonnay Flavor - Smell Drunk, Stay Sober 
อันดับ 4 Xylish Platinum Mint "Chardonnay" Flavor Gum นี่เลิศมากจากส่วนผสมอรุ่นที่ใช้สำหรับทำไวน์ หลังกินแล้วหายใจออกมาเป็นรสไวน์เลยทีเดียว คงแก้อยากไปบาร์เหล้าได้ไม่มากก็น้อย

อันดับ 3 Fuwarinka Scented Gum: Come out Smelling like a Rose 
เจ้านี่ไม่มีขายต่างประเทศมีที่ญี่ปุ่น เท่านั้น เจ้าหมากฝรั่งนี้นอกจากจะทำให้ลมหายใจหอมสดชื่นแล้วยังทำให้กลิ่นตัวหอมอีก ด้วย สุดยอดไปเลย มีทั้งกลิ่นดอกกุหลาบ หรือกลิ่นมะนาวหอมชื่นใจ ไม่อยากจะเชื่อว่าเราจะประหยัดค่าโคโลญจน์ไปได้อีกตั้งเยอะแหนะ

อันดับ 2 Sex Gum for Men: Like Chewable Japan?
หมากฝรั่งสำหรับผู้ชายเต็มไปด้วยสมุนไพร หลายชนิดเพื่อบำรุงกำลัง โดยเฉพาะระบบเลือดและความเป็นแมน ในหมากฝรั่งนี้มี Testosterone  ด้วยสกัดธรรมชาติ 

อันดับ 1 Bust Up Gum: It Blows Up Your Bubbles!
ตัวนี้ทำให้หญิงๆ ทุกคนอมยิ้มแน่ๆ เพราะมันโฆษณาว่าสามารถทำให้อึ๋มขึ้นได้นะสิ

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ในอนาคตมนุษย์จะหายตัวได้ ด้วย "เสื้อล่องหน"

       ถ้าพูดถึงมนุษย์ล่องหน เราอาจจะนึกไปถึงเรื่องจินตนาการหลุดโลก หายจากตรงนี้ไปโผล่ตรงนู้น หายจากตรงนู้นมาอยู่ตรงนี้(นี่มนุษย์ล่องหนหรือผีกันแน่) พอดูกันแล้ว ก็จะรู้สึกมหัศจรรย์ อยากทำได้แบบนั้นบ้าง แต่ก็ได้แค่คิดค่ะ ไม่มีวันที่จะเป็นจริงแน่นอน ก็แหม...อยู่ดีๆ ใครล่ะจะไปหายตัวได้เนอะ

       แต่ในโลกยุคนี้ จะเรียกว่าฝันเป็นจริง หรือ นวัตกรรมสมัยใหม่ก็แล้วแต่ "การล่องหน" จะสามารถเกิดขึ้นได้จริง โดยไม่ต้องถอดจิต เล่นของ หรือใช้ไสยศาสตร์ใดๆ เพราะทุกอย่างเกิดจากความคิดและหลักการทางวิทยาศาสตร์ เพียงแค่เอาเสื้อหรือผ้าคลุมล่องหนมาคลุมที่ตัว เราก็จะกลายเป็นมนุษย์ล่องหนไปในทันที

        เสื้อคลุมหรือผ้าคลุมที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ เป็นงานวิจัยของชาวอังกฤษ ทำขึ้นจากวัสดุชนิดพิเศษที่ได้รับการพัฒนามาเรื่อยๆ เรียกว่า meta-material ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มของวงแหวนโลหะ มีคุณสมบัติที่ไม่ธรรมดามากๆ  คือ มีดัชนีหักเหเป็นลบ ถึงแม้ว่าเราจะมองเห็น meta-material ด้วยตาเปล่าๆ ได้ แต่เมื่อนำไปใช้จริงๆ เรากลับมองไม่เห็นสิ่งที่บดบังเอาไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหลักการเกี่ยวกับเรื่องแสงทางฟิสิกส์นั่นเอง

        ปกติตามหลักการมองเห็น เราจะมองเห็นสิ่งของก็ต่อเมื่อมีแสงตกกระทบวัตถุและสะท้อนกลับเข้ามาที่ตา เรา แต่วัสดุนี้จะต่างไปจากเดิม ตรงที่จะทำให้แสงรวมถึงคลื่นแม่เหล็ดอื่นๆ ที่ตกลงบนวัสดุนี้หักเหและพุ่งอ้อมผ่านรอบๆ เสื้อคลุมไป ไม่สะท้อนกลับเข้าตาเราเหมือนเดิม ดังนั้นของที่ถูกปิดด้วยวัสดุนี้ ก็เหมือนถูกผ้าคลุมซ่อนเอาไว้ เราจึงไม่เห็นสิ่งของนั้นๆ หากจะเปรียบเทียบการเดินทางของแสงผ่านวัสดุชนิดพิเศษนี้ นักวิจัยได้กล่าวไว้ว่าคลื่นแสงไหลผ่านรอบๆ วัตถุแบบเดียวกับการไหลของน้ำผ่านรอบตอไม้นั่นเอง


       สำหรับประโยชน์ของเจ้าเสื้อล่องหนนี้ ก็ไม่ได้มีไว้ให้ใส่สนุกๆ อย่างที่คิดหรอกนะคะ เพราะเขาสร้างขึ้นมาเพื่อจุดมุ่งหมายในทางการทหารด้วย โดยเมืองนอกส่วนใหญ่ก็วางแผนไว้แล้วว่าหากนวัตกรรมชิ้นนี้สร้างสำเร็จมา เมื่อไหร่ คงจะได้นำมาใช้กับกองทัพ ทั้งเครื่องบินรบ รถถัง เรียกว่าล่องหนกันหมดเลยทีเดียว

วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

หัวหิน ฮิลล์ วินยาร์ด จ.ประจวบคีรีขันธ์



ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์ด แห่งแรกและแห่งเดียวในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยความที่เพาะปลูกบนพื้นที่ชายทะเล ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ซึ่งช้างป่าเอเชียเคยอาศัยอยู่ สภาพดิน และสภาพอากาศจึงเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตขององุ่นพันธ์ดีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชีราซ บรูเนลโล โคลอมบาร์ด และเชอนิน บลองก์ และอื่น ๆ อีกรวม 20 พันธ์

ผลองุ่นที่ได้จะมีกลิ่นหอมและคาแรคเตอร์พิเศษ ไวน์ที่ได้จากการผลิตจะมีความเข้มข้น ไร่องุ่นแห่งนี้นอกจากเป็นแหล่งผลิตไวน์ไทยชั้นนำคุณภาพเลิศอันโด่งดังของ บริษัทสยาม ไวเนอรี่ แล้ว ยังถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านไวน์แห่งใหม่ ที่ช่วยดึงดูดทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ต้องการท่องเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ๆ และกิจกรรมสนุกสนาน ทั้งนี้ยังเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในจังหวัดประจวบฯ ให้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย

ภายในบริเวณไร่องุ่นที่กว้างใหญ่ถึง 200 ไร่จากเนื้อที่ทั้งหมด 1,200 ไร่ เต็มไปด้วยต้นองุ่นปลูกเรียงรายเป็นแถวอย่างมีระเบียบล้อมรอบด้วยทิวเขาที่ ให้บรรยากาศอบอุ่นและโรแมนติค บางวันที่อากาศครึ้ม ๆ จะมีหมอกบาง ๆ ปกคลุมอยู่ทั่วไร่ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศ ภายในไร่องุ่นยังมีร้านอาหารแบบบิสโทร ชื่อ เดอะ ศาลา (The Sala) ศูนย์ต้อนรับนักท่องเที่ยวซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะแบบไทย ซึ่งจัดให้นักท่องเที่ยวไดเพลิดเพลินไปกับการชิมไวน์ รวมถึงการได้รับความรู้ด้านไวน์ และการปลูกองุ่นจากเจ้าหน้าที่ของสยามไวเนอรี่ เพื่อรองรับการเดินทางมาเยี่ยมชมของนักท่องเที่ยวอย่างครบวงจร โดยผู้ที่ต้องการชิมชิมไวน์สามารถชิมไวน์ตัวที่เปิดให้ชิมในแต่ละวันซึ่งทาง ไร่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวชิมฟรี แต่ถ้านักท่องเที่ยวที่มาเป็นหมู่คณะต้องการจะเทสต์ไวน์ทุกตัวจะต้องจ่ายหัว ละ 150 บาท

นอกจากการเดินทางมาท่องเที่ยวแล้ว สำหรับคู่รักที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ก็สามารถเดินทางมาจัดงานแต่งงานหรือฮันนีมูน รวมถึงปาร์ตี้อื่น ๆภายในไร่องุ่นแห่งนี้ได้อีกด้วย นอกจากการได้สัมผัสผลองุ่นแล้ว ที่นี่ยังมีบริการนั่งช้างชมไร่ โดยคิดค่บริการเป็นรอบ รอบละ 15 นาที ราคา 20บาท ถ้าถึง 1 ชั่วโมง คิด 800 บาท ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชาวต่างชาติชื่นชอบกัน ปลูกต้นองุ่น ช่วยตัดองุ่น และภายในไร่ยังมีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์ด ตั้งอยู่ที่ 204 บ้านคอกช้างพัฒนา หนองพลับ หัวหิน ขับรถประมาณ 30-40 นาที จากตัวเมืองหัวหินเวลาที่เหมาะสมในการเข้าชมไร่องุ่นเป็นช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค ของทุกปี เนื่องจากเป็นฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต ในด้านกิจกรรมติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 084-8740775





 

 

วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

'บิ๊กเบน' เปลี่ยนชื่อเป็น 'หอเอลิซาเบธ'



สภา ผู้แทนราษฎรอังกฤษประกาศเปลี่ยนชื่อหอนาฬิกาบิ๊กเบน เป็นหอเอลิซาเบธ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เนื่องในวาระครองราชย์ครบ 60 ปี
การเปลี่ยนชื่อหอนาฬิกาบิ๊กเบน
ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของกรุงลอนดอน เป็นเอลิซาเบธทาวเวอร์ หรือหอคอยเอลิซาเบธ ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ เละผู้นำพรรคการเมืองหลักทั้ง 3 พรรค และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เนื่องในปีพัชราภิเษก

โดยนายโทเบียส เอลล์วูด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษสังกัดพรรคอนุรักษ์นิยม เป็นผู้เสนอความคิดดังกล่าว และขอให้คณะกรรมาธิการสภาฯ พิจารณาเปลี่ยนชื่อหอนาฬิกาบิ๊กเบน เพื่อให้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของวาระครบรอบ 60 ปีแห่งการครองราชย์ของสมเด็จพระราชินีผู้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้อย่าง สมบูรณ์แบบ

สำหรับข้อเสนอดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาฯ เกินกว่ากึ่งหนึ่ง รวมทั้งนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม นายเอ็ดเวิร์ด มิลลิแบนด์ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคแรงงาน และนายนิโคลัส เคล็ก หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย

โดยทั้งนายก รัฐมนตรีและผู้นำฝ่ายค้านต่างกล่าวถึงการเปลี่ยนชื่อหอนาฬิกาบิ๊กเบนในครั้ง นี้เป็นการยกย่องสมเด็จพระราชินีอย่างสมพระเกียรติ

ทั้งนี้ การเปลี่ยนชื่อหอนาฬิกาบิ๊กเบนเป็นพระนามของสมเด็จพระราชินี ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการแทนที่ชื่อสิ่งก่อสร้างในพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งเป็นที่ทำการของรัฐสภาอังกฤษ ด้วยพระนามกษัตริย์อังกฤษ

ก่อนหน้านี้ ในปี 2403 อาคารฝั่งตะวันตกที่เดิมเรียกว่า คิงสทาวเวอร์ (King's Tower) ได้รับการตั้งชื่อใหม่ว่า "วิกตอเรียทาวเวอร์" เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ในโอกาสที่พระองค์เป็นกษัตริย์อังกฤษที่ครองราชย์ยาวนานที่สุด

วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ความจำแย่แก้ได้ด้วย 4 วิธี

วัยที่เพิ่มขึ้นบางครั้งอาจทำให้เริ่มหลงลืม ปัญหานี้บรรเทาได้ด้วยเทคนิค 4 ข้อ แนะวัยทำงานปฏิบัติดี วัยเรียนปฏิบัติเลิศ

 

วิธีแรก โฟกัสสาย ตา โดยนั่งจ้องวัตถุ หรือ เหตุการณ์ตรงหน้า จดจำรายละเอียดให้มากที่สุด นานประมาณ 3 นาที จากนั้น ละสายตา แล้ววาดสิ่งที่เห็นบนกระดาษ เมื่อเสร็จตรวจดูว่ามีสิ่งใดตกหล่นไปหรือไม่ ฝึกสม่ำเสมอจะช่วยพัฒนาความจำระยะสั้น บริหารสมอง และเสริมประสิทธิภาพความจำด้านสายตา
วิธีต่อมา รับ ประทานอาหารอุดมวิตามินซี, อี และเบต้าแคโรทีน โดยเฉพาะส้ม องุ่น เบอร์รี ผักสีเขียว ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อสมองจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เซลล์สมองเสื่อม ทั้งนี้ ผลวิจัยในต่างประเทศพบว่า ผู้บริโภควิตามินซีสูง มีผลการทดสอบด้านสมาธิ ความจำ และการคำนวณดีที่สุด
ตามด้วย การทำ กิจกรรมท้าทายความคิด เมื่ออายุเริ่มเข้าเลขสาม สมองจะเริ่มทำงานช้าลง ดังนั้น ควรหางานอดิเรกยามว่างที่สนุกสนานทำ เช่น เต้นแทงโก้ เรียนภาษาใหม่ ต่อจิ๊กซอว์ เกมส์ปริศนาอักษรไขว้ เล่นปิงปอง เป็นต้น ช่วยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของสมอง และความจำได้ดี
สุดท้าย นอนให้ เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เซลล์ประสาทจะสื่อสารกันได้มากขึ้น ส่งผลต่อการเรียนรู้ และความจำ
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รอยช้ำโผล่ไม่รู้สาเหตุ ระวังมะเร็ง!

       รอยช้ำเป็นจ้ำที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนผิวหนัง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ถูกกระแทกหรือบีบรัด หากถูกพบหลังจากตื่นนอน ความเชื่อเรื่องผีอำก็จะถูกยกมาเป็นสาเหตุของรอยช้ำปริศนา ทว่าระหว่าง ‘ผี’ กับ ‘มะเร็ง’ กลัวอะไรมากกว่ากันล่ะ?

 

       วันนี้มีคำอธิบายรอยช้ำที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุบนผิวหนัง และคงไม่ใช่เพราะผีอำ แต่เป็นสัญญาเตือนภัยสุขภาพว่า อาจเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน หากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษาก็มีโอกาสเสียชีวิตได้
       อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่รอยช้ำไม่รู้ที่มาเท่านั้นที่จะสรุปว่า เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ยังต้องมีอาการอื่นๆ ปรากฏร่วมด้วย อาทิเช่น อ่อนเพลีย มีไข้อ่อนๆ หลายวันก็ยังไม่ลดไม่หาย เลือดออกตามไรฟัน ส่วนรอยช้ำที่เกิดขึ้นนั้นก็ยิ่งขยายใหญ่กว่าเดิมอีกเท่าตัว
      สำหรับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือลูคิเมีย มีทั้งชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรัง โดยชนิดเฉียบพลันจะพบได้บ่อยกว่า โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในไขกระดูก ซึ่งมีเม็ดเลือดอยู่ 3 ชนิด คือ เม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือด
      โรคนี้ถ้าเป็นแล้วจะส่งผลให้เซลล์เม็ดเลือดขาวมีการแบ่งตัวเพิ่มปริมาณ มากกว่าปกติ แต่กลับไม่สามารถเจริญเป็นเซลล์ที่แข็งแรง เหตุนี้เองทำให้ช่วงที่เม็ดเลือดขาวมีการแบ่งตัวมากกว่าปกติจะทำให้ร่างกาย ขาดออกซิเจน อันตรายต่อสมอง หัวใจ และปอด
       แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงที่เม็ดเลือดขาวลดจำนวนลงเพราะความไม่สมบูรณ์ของเม็ด เลือดขาว เมื่อนั้นร่างกายจะขาดตัวทำลายเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย อันเป็นหน้าที่หลักของเม็ดเลือดขาว ส่งผลให้คนๆ นั้นมีภูมิต้านทานน้อย เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆ มีอาการไข้ และรู้สึกอ่อนเพลีย ขณะที่รอยช้ำเป็นจ้ำๆ ที่ขยายใหญ่ขึ้นนั้น เกิดจากการที่เส้นเลือดปริแตกจึงมีเลือดออกอยู่ใต้ผิวหนังและไม่ยอมหยุด
       สำหรับสาเหตุของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวไม่อาจสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้ แต่ทางการแพทย์สันนิษฐานว่า เกิดจากภาวะผิดปกติของพันธุกรรม และคนที่เป็นโรคทางพันธุกรรมบางอย่างมีโอกาสเป็นได้มากกว่าคนอื่นๆ ส่วนการรักษา หลังจากแพทย์เจาะตรวจนับเม็ดเลือด เพื่อสำรวจความผิดปกติของเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือดแล้ว จะให้ผู้ป่วยรับประทานยา บางรายอาจต้องใช้เคมีบำบัดร่วมด้วย
       ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว คือ ระวังอย่าให้มีบาดแผล ระวังการชนหรือกระแทก เพราะเลือดจะออกได้ง่ายๆ นอกจากนี้ยังต้องระวังการติดเชื้อเมื่อเป็นแผลด้วย

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แนะวิธีหยุด ‘สะอึก’

       ‘สะอึก’ ทาง การแพทย์อธิบายอาการไม่พึงประสงค์ไว้ว่า กล้ามเนื้อกะบังลมบริเวณรอยต่อระหว่างช่องปอดกับช่องท้องเกิดการหดเกร็งโดย ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่อาจสันนิษฐานว่า มีสิ่งไปกระตุ้นเส้นประสาท 2ตัว คือ Vagus nerve และ Phrenic nerve ซึ่ง เป็นส่วนที่เชื่อมระบบประสาทต่อกับระบบทางเดินอาหารส่วนต้น ส่วนเสียงสะอึกที่เกิดขึ้นจากการหายใจออกระหว่างที่กระบังลมกระตุกแบบ ปัจจุบันทันด่วนนั่นเอง 


       สำหรับบางคนเวลาสะอึกถึงกับกลายเป็นจุดสนใจ เพราะเสียงสะอึกดังกึกก้อง แถมตัวก็กระตุก แม้พยายามเอามือปิดปาก และนั่งนิ่งๆ ก็ข่มอาการเอาไว้ไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่วิธียอดนิยมที่ใช้แก้อาการดังกล่าว คือ การดื่มน้ำลง ทว่าในช่วงเวลานั้น ไม่สามารถหาน้ำดื่มได้ แนะนำให้ใช้วิธีกดจุด
       การกดจุดแก้สะอึก เป็นเคล็ดลับทางแพทย์แผนจีน โดยให้กดจุดจ่านจู๋ ที่อยู่ในตำแหน่งหัวคิ้วทั้งสองข้าง ก่อนกดจุดให้นั่งหลังตรงหรือนอนหงาย จากนั้นใช้นิ้วโป้งกดลงที่หัวคิ้วพร้อมกันทั้งสองข้าง ขณะกดให้ค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักเบาแล้วแรง นิ้วที่เหลือให้ศีรษะไว้ โดยกดแบบเบาสลับหนักค้างไว้จนกว่าจะหายสะอึก ที่มักหายภายใน 2-3นาที
       อย่างไรก็ตาม หากสะอึกนานกว่านั้นเป็นชั่วโมง เป็นวัน หรือมีอาการติดๆ กันเป็นประจำ ประกอบกับพบอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น หายใจติดขัด เวียนศีรษะ เจ็บหน้าอก ควรรีบไปพบแพทย์ เนื่องจากอาจเกิดความผิดปกติกับระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ หรือระบบสมองและเส้นประสาท

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

หลากสรรพคุณของ ‘โยเกิร์ต’

ใครที่ชอบกินโยเกิร์ตต้องดีใจจนออกนอกหน้า เพราะวันนี้เรามีประโยชน์ดีๆ จากโยเกิร์ตมาฝากกันคะ


- คนที่ท้องเสียเป็นเพราะมีเชื้อจุลินทรีย์อยู่ในลำไส้ แต่เชื้อจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตเกิดมาเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดเลวทั้งหลาย การกินโยเกิร์ตจึงทำให้อาการท้องเสียของคุณทุเลาอย่างรวดเร็ว ทำให้ถ่ายน้อยลงหรือหยุดถ่าย
- โยเกิร์ตมีไขมันชื่อคอนจูเกตเต็ดไลโนเลอิก ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
- โยเกิร์ตไขมันต่ำ 1 ถ้วย เป็นแหล่งรวมของสารอาหารถึง 11 ชนิด และแต่ละชนิดก็เป็นตัวแม่สำหรับร่างกายทั้งนั้น อย่างไอโอดีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 2 โปรตีน วิตามินบี 12 ทริปโทฟาน โพแทสเซียม โมลิปเดนัม สังกะสี และวิตามินบี 5 คนที่กินโยเกิร์ตเป็นประจำถึงได้อายุยืนแถมแข็งแรง
- ถึงแม้จะทำมาจากนม แต่โยเกิร์ตให้โปรตีนและแคลเซียมสูงกว่านมธรรมดา เพราะลำไส้ของเราย่อยนมไม่ได้ แต่สำหรับโยเกิร์ตกลับทำได้ชิลๆ เพราะในโยเกิร์ตมีกรดแลกติกที่จะช่วยย่อยแคลเซียมให้เล็กลง ทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้
- จุลินทรีย์ทั่วไปอาจทำร้ายร่างกายแต่แลคโตบาสิลัสในโยเกิร์ตเป็นจุลินทรีย์ ชนิดดีที่ ร่างกายต้องการ มันจะไปหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อ “เฮลิโคแบคเตอร์ เอชไพโลไร” ที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะ ลดการอักเสบของลำไส้และไขข้อ แถมยังทำตัวเป็นนักปราบปรามจุลินทรีย์ที่จะทำให้คุณเป็นมะเร็งปากมดลูก ช่วงที่มีรอบเดือนผู้หญิงจึงควรทานโยเกิร์ตเป็นประจำ
- แคลเซียมสูงที่ได้จากโยเกิร์ตจะทำให้เป็นสาวกระดูกเหล็ก ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ความดันสูง มะเร็งลำไส้ และยังกระตุ้นระบบเผาผลาญทำให้คุณผอมเองโดยไม่ต้องเหนื่อย
- ทำให้ปากสะอาด กำราบกลิ่นปากและโรคเหงือก
- เพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย เพราะแบคทีเรียในโยเกิร์ตทำให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินเคและบีในลำไส้ได้ดีขึ้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์ดิจิตอล Investor Station

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เหลือเชื่อ “ซานฟรานซิสโก” สร้างด้วยไม้จิ้มฟัน

       ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ “ไม้จิ้มฟัน” ธรรมดาที่เราใช้แงะขี้ฟันนี่แหละ จำนวน 100,000 ชิ้น สามารถสร้างเป็นประติมากรรมอันงดงามได้อย่างน่าอัศจรรย์ ฝีมือของนาย Scott Weaver เขาเริ่มต้นสร้างงานชิ้นนี้มาเมื่อ 35 ปีที่แล้ว โห.. ตั้งแต่หลายๆ คนยังไม่เกิดเลย
       เขาจะจำลองสถานที่ต่างๆ ของเมือง “ซานฟรานซิสโก” มาอยู่ในประติมากรรมชิ้นนี้ ไม้จิ้มฟันที่เขาเอามาทำ ก็ได้มาจาก พรรคพวกเพื่อนฝูงคนนั้นคนนี้เอามาฝากจากที่ต่างๆ เช่น เคนยา, โมร็อกโก, สเปน, เยอรมัน และอิตาลี
       และที่เด็ดสุดเราสามารถท่องไปในสถานที่ต่างๆ ในประติมากรรมชิ้นนี้ด้วยลูกปิงปอง จะเป็นอย่่างไรต้องลองชมวีดีโอด้านล่างดูครับ
 
  































      

วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วิธีคลายง่วงช่วงบ่าย

       หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มักหาวแล้ว หาวอีก ต้องทนทรมานกับความง่วงช่วงบ่ายบ่อย ๆ ทำให้เสียสมาธิในการเรียน หรือ ทำงาน นั่นเป็นเพราะมื้อกลางวันรับประทานอาหารอุดมแป้ง และน้ำตาลขัดขาวมากเกินไป ลองลดปัจจัยดังกล่าว แล้วเพิ่มปริมาณผัก ผลไม้ รวมทั้งธัญพืชเยอะขึ้นอีก จากนั้น คอยสังเกตความเปลี่ยนแปลง


       โดย ผัก-ผลไม้อุดมวิตามินซี” จำพวก บรอกโคลี ฝรั่ง ส้ม จะช่วยต้านความล้าจากอาการเครียด และกังวล ส่วนแอปเปิล กล้วย มีโครเมียม ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย ส่วน “ธัญพืช” เช่น งา ถั่วเมล็ดแห้ง ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ซึ่งไม่ผ่านการขัดสี หรือ ขัดสีน้อยที่สุด จะให้วิตามิน และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ บำรุงประสาท และช่วยให้จิตใจแจ่มใสสดชื่น
นอกจากนั้น อาจเปลี่ยนอิริยาบถโดยการ ลุกเดิน” ด้วย ระยะก้าวปานกลาง นานประมาณ 3-5 นาที ก็เป็นอีกวิธีในการคลายง่วงได้ เนื่องจากช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต คลื่นสมองทำงานดีขึ้น ร่างกายรู้สึกตื่นตัว
       ทั้งนี้ หากทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ควรหมั่นพักสายตาทุก 1ชั่วโมง” โดยหลับตา หรือ มองไปไกลๆ ประมาณ 5 นาที อาจใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ประคบดวงตา ประมาณ 2-3 นาที จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา และทำให้เลือดหมุนเวียนมาเลี้ยงดวงตาได้ดี ทั้งยังคลายง่วง และลดการเพลียตา เพราะแสงจากหน้าจอ
       รวมทั้ง อย่าลืมมีน้ำดื่มติดโต๊ะ” ค่อยๆ จิบระหว่างวัน ทั้งนี้ ควรเป็นน้ำอุณหภูมิห้อง เพื่อร่างกายจะดูดซึมไปใช้ในระบบหมุนเวียนเลือดได้ทันที ช่วยเพิ่มความสดชื่น และกระปรี้กระเปร่า
เป็นวิธีง่ายๆ ช่วยให้สดชื่นตื่นตัวได้ โดยไม่พึ่งกาแฟ ลองนำไปประยุกต์ใช้กันดู

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Home Alone 5: Alone in the Dark เร็วๆ นี้


ค่าย เอบีซีแฟมิลี่ ทำให้ทั่วโลกตะลึง เมื่อล่าสุดประกาศจะคืนชีพให้กับแฟรนไชส์ Home Alone หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง (ไม่ใช่สำหรับเด็กรุ่นใหม่แน่ๆ) ในไทยด้วยชื่อว่า โดดเดี่ยวผู้น่ารัก และโดยจะสร้างภาค 5 ที่มีชื่อว่า Home Alone 5: Alone in the Dark เร็วๆ นี้

Home Alone แต่ละภาคนั้นมีเนื้อเรื่องคล้ายๆ กัน ก็คือ เด็กตัวละครหลักของเรื่อง ถูกทอดทิ้งโดยบังเอิญทำให้ต้องอยู่บ้านคนเดียว และบังเอิญบ้านหลังนั้นก็ดันเป็นเป้าหมายของโจรกระจอกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งภาคแรกและภาคสองนั้น นำแสดงโดย แม็คคอเลย์ คิลกิน (รับบทเป็น เควิน แม็คคาลิสเตอร์) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทยเช่นเดียวกับทั่วโลก ซึ่งภาคแรกนั้นสร้างสถิติเป็นหนังทำรายได้สูงสุดในปี 1990 ที่ 476 ล้านดอลลาร์ (ด้วยงบเพียง 18 ล้านดอลลาร์)

แต่ในภาค 3 นั้นเปลี่ยนตัวแสดงมาเป็น อเล็กซ์ ดี. ลินซ์ และทำรายได้น้อยกว่าทั้งสองภาคแรกมาก (งบ 32 ล้านดอลลาร์/รายได้ 79 ล้านดอลลาร์) แถมยังไม่ได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่แฟรนไชส์นี้เริ่มหมดความนิยมไปด้วย

เมื่อมีภาค 4 จึงแทบไม่มีใครสนใจ แต่ในปีนี้ ค่ายเอบีซีแฟมิลี่ เตรียมย้อนกลับไปยังสูตรสำเร็จสูตรเดิมของภาค 1-2 โดยจะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงคริสต์มาส ที่เด็กอายุ 8 ขวบชืื่อ ฟินน์ (คริสเตียน มาร์ติน) ที่ครอบครัวต้องย้ายบ้านจากแคลิฟอร์เนียไปยังรัฐเมน และอยู่ในบ้านใหม่ที่หลอนยังกับบ้านผีสิง ฟินน์เชื่อเป็นตุเป็นตะว่าบ้านนี้มีผีแน่นอน จึงสร้างกำดับจับผีไว้เต็มบ้าน อยู่มาวันหนึ่งพ่อแม่ของฟินน์ไม่อยู่บ้าน ทิ้งให้เขากับพี่สาวอยู่ลำพัง และคืนนั้นเองที่กำดักของฟินน์จับอะไรได้สักอย่างที่ไม่ใช่ผี แต่เป็นกลุ่มโจรกระจอกที่พยายามจะเข้าไปขโมยของ

อย่างไรก็ตาม Home Alone 5: Alone in the Dark จะไม่ได้ฉายในโรงหนัง แต่จะเป็นหนังที่ฉายทางทีวีในช่วงคริสต์มาสปีนี้ ในเดือนธันวาคมนั่นเอง

วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Journey 3: From the Earth to the Moon !!



หลัง ‘Journey 2: The Mysterious Island‘ ทำ รายได้ทั่วโลกไปแล้วกว่า $325,812,241 ล้าน จากทุนสร้างเพียง $70 ล้าน ทำให้สตูดิโอ Warner Bros. เริ่มมีการพูดคุยที่จะทำหนังภาค 3 ต่อเนื่องกันในเร็วๆนี้ โดยจะดึงผู้กำกับ Brad Peyton และ สองคู่หูมือเขียนบท Brian กับ Mark Gunn กลับมารับหน้าที่เดิมอีกครั้ง

สำหรับ Journey 2 คือภาคต่อของ Journey to the Center of the Earth ในปี 2008 ที่ทำรายได้ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน โดยหนังได้ Josh Hutcherson, Dwayne Johnson, Michael Caine, Vanessa Hudgens, Luis Guzman และ Kristen Davis มาเป็นทีมนักแสดงนำ แต่ถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานยืนยันเรื่องรายชื่อนักแสดงออกมาแต่อย่างใด

แต่ที่ค่อนข้างแน่นอนคือ ‘Journey 3′ วางแผนฉายไว้ที่ปี 2014 นี้

วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

The Raid Redemption ฉะ!ทะลุตึกนรก หนังแอ็คชั่นดุเดือดสุดมันส์แห่งปีเข้าไทย


       คุณเคยดูภาพยนตร์แอ็ค ชั่นมันส์ที่สุดในชีวิตครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อย่ากระพริบตา นี่คือหนังแอ็คชั่นดุเดือดสุดมันส์แห่งปี สร้างความเซอร์ไพรส์มาแล้วทั่วโลก ยูไนเต็ด โฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ และเมอรันเตา ฟิล์มส์ ภูมิใจเสนอ THE RAID REDEMPTION ฉะ! ทะลุตึกนรก ภาพยนตร์ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ดิบ ดุ และมันส์ที่สุดในรอบ 10 ปี สร้างเสียงฮือฮาในทุกเทศกาลฉาย และทุกประเทศทั่วโลกที่เปิดฉายรวมทั้งสหรัฐอเมริกา



เนื้อเรื่อง
        สมาชิกหน่วยรบพิเศษได้มุ่งหน้าไปยังอาคารอพาร์ทเมนต์เสื่อมโทรมเพื่อปฏิบัติ ภารกิจกำจัดเจ้าของอพาร์ทเมนต์ ซึ่งเป็นเจ้าพ่อยาเสพติดตัวเอ้ อพาร์ทเมนต์หลังนี้ไม่เคยถูกบุกจู่โจมมาก่อน และไม่เคยถูกแตะต้องโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาคารหลังนี้ที่ถูกมองว่าเป็นแดนมิคสัญญีได้กลายเป็นแหล่งพักพิงของเหล่า ฆาตกร แก๊ง นักข่มขืนและหัวขโมย ที่แสวงหาที่พักในสถานที่ที่พวกเขารู้ว่าพวกเขาจะไม่ถูกแตะต้อง เหล่าเจ้าหน้าที่เริ่มเข้าประจำที่ในช่วงรุ่งสาง และค่อยๆ เข้าควบคุมสถานที่นี้ทีละชั้นๆ แต่ก็ไม่วายถูกปิดล้อมทั้งตึกไว้ โดยดับไฟทั้งหมดและปิดทุกทางเข้าออก ตอนนี้พวกเขาติดอยู่บนชั้นหกโดยที่การสื่อสารทั้งหมดถูกตัดขาด และเจ้าของตึกก็ได้สั่งระดมพลจากบรรดาผู้เช่าของเขาต้อนรับแขกผู้มา เยือนกลุ่มนี้ หน่วยรบพิเศษชุดนี้จะต้องต่อสู้ฟาดฟันผ่านทุกชั้นและทุกห้องไปให้ได้ ไม่ใช่เพียงเพื่อปฏิบัติภารกิจของพวกเขาให้สำเร็จเท่านั้น แต่เพื่อเอาชีวิตรอดจากการต่อสู้ที่นองเลือดนี้ด้วย

 

16 สิงหาคมนี้ ต่อมอะดรีนาลินทะลักจุดแตกพร้อมกัน เฉพาะที่ เอเพกซ์ สยามสแควร์

วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทายนิสัยจากนิ้วมือ

ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต


ทายนิสัยจากนิ้วมือ ที่คุณชอบ
- ชอบนิ้วโป้ง
แสดง ว่าเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ตามกระแสสังคม ไม่แคร์ใคร ไม่แคร์สายตาผู้อื่น คนรอบข้างไม่สามารถทำให้ความเชื่อมั่นลดน้อยถอยลงแม้แต่น้อย รักอิสระสูงไม่ชอบให้ใครมาบงการชีวิตแฝงไปด้วยความฉลาดหลักแหลม ซื่อสัตย์ คิดหวังอะไรต้องทำให้ได้สิ่งนั้น ละเอียดรอบคอบไม่มองอะไรแบบผ่าน ๆ
- ชอบนิ้วชี้
แสดง ว่าเป็นคนที่ชอบทำอะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ จึงทำให้มีเสน่ห์ในตัวที่ดึงดูดใจคนรอบข้าง มีสไตล์การแต่งตัวเป็นตัวของตัวเองและเชื่อว่าชุดที่เลือกใส่เองจะทำให้ตัว เองดูดีที่สุดโดยไม่จำเป็นที่จะต้องตามแฟชั่น มีความเป็นผู้นำสูงชอบที่จะนำความคิดของผู้อื่นและชอบที่จะคิดค้นหาอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนกับคนอื่น
- ชอบนิ้วกลาง
แสดง ว่าเป็นคนที่มีจิตใจร่าเริงแจ่มใสได้ตลอดเวลามีจินตนาการสูงในการสร้างสรรค์ สิ่งต่าง ๆ มีบทบาทมากมายในชีวิต แต่บางทีก็ดูเงียบขรึมในบางทีก็ดูร่าเริงและในบางครั้งก็จะทำตัวเป็นที่น่า สงสารของผู้ได้พบเห็น แต่หลักสำคัญก็คือจิตใจของคนที่ชอบนิ้วนี้จะมั่นคงไม่โลเลง่าย ๆ พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นตลอดเวลา
- ชอบนิ้วนาง
แสดง ว่าเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองอยากให้คนรอบข้างสนใจและต้องการให้ผู้อื่นมาเอา อกเอาใจมาคอยบริการมากกว่าออกไปทางลูกคุณหนูหน่อย แต่ลึก ๆ เป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนสามารถเก็บความรู้สึกลึก ๆ ข้างในของตัวเองได้ดี
- ชอบนิ้วก้อย
แสดง ว่าเป็นคนที่ชอบเพ้อฝันในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเป็นแต่ทำไม่ได้ เป็นคนนิสัยดีเข้ากับคนอื่นได้ง่าย โอนอ่อนผ่อนตาม เก็บอารมณ์ได้ดี เป็นคนไม่ค่อยคิดมากที่สำคัญเป็นคนที่มีความโรแมนติกสูง รักใครรักจริง รักเดียวใจเดียว

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

นั่งไขว่ห้าง...นั่นแหละสาเหตุ


  ใครปวดขา ปวดตัว แล้วคิดว่าสาเหตุเป็นเพราะนั่งทำงานหน้าคอมฯ อยากให้ลองเลิก 'นั่งไขว่ห้าง' แล้วดูว่าอาการปวดของคุณ ดีขึ้นหรือไม่

        ใคร ที่บ่นปวดขา ปวดหลัง ปวดคอ และเชื่อว่าอาการปวดเหล่านั้น ล้วนเกิดจากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน คงจะต้องคิดทบทวนดูใหม่ เพราะแม้การนั่งหน้าคอมฯทั้งวันจะทำให้ปวดเมื่อยอยู่บ้าง แต่คุณลองถามตัวเองหรือยังว่า คุณนั่งไขว้ห้าง ตอนพิมพ์งาน หรือ เล่นอินเตอร์เน็ตหรือเปล่า...?

        การนั่งไขว่ห้าง อาจเป็นท่านั่งสบายๆ สำหรับหลายคน ซึ่งจริงๆ แล้วการนั่งไขว่ห้าง คือ ท่านั่งที่ถ่ายน้ำหนักไปด้านใดด้านหนึ่งซ้ำๆ เป็นเวลานานๆ ดังนั้นระหว่างที่เรานั่งไขว่ห้าง เส้นเลือดใหญ่ที่ต้นขาทั้งสองจะถูกแรงของขาทั้งสองบีบเอาไว้ให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น เพราะต้องสูบฉีดเลือดให้ร่างกายลำเลียงไปเลี้ยงส่วนต่างๆให้ทั่วถึง

      และนอกจากการนั่งไขว่ห้างจะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย ตั้งแต่ปวดเมื่อยเล็กน้อยไปจนถึงโรคปวดเรื้อรังแล้ว ในบางรายยังมีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืดหลังลุกจากท่านั่งไขว่ห้างนานๆ หรือ อาจมีอาการปวดบวมที่ขาทั้งสองข้างด้วย 

      ดังนั้น การป้องกันจึงไม่ควรนั่งในท่าที่ทิ้งน้ำหนักตัวไปข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไป หรือ หากจะนั่งไขว่ห้างก็ควรสลับเปลี่ยนด้านบ่อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียต่อสุขภาพ